ความถี่ในการซื้อตามประเภทของธุรกิจอาหาร
ความถี่ในการซื้อตามประเภทของธุรกิจอาหาร
ความถี่ในการซื้อ โดยเฉลี่ยแล้วขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจและสินค้าอาหารที่นำเสนอ เกี่ยวเนื่องกับหลายปัจจัย ทั้งลักษณะของอาหาร รสนิยมส่วนตัวของผู้บริโภค และสถานการณ์รอบตัว แต่ในแง่ของสถิติ มีการศึกษาและข้อมูลบางส่วนที่ช่วยประมาณการได้

ความถี่ในการซื้อตามประเภทของธุรกิจอาหาร

การที่คนอยากกินเมนูอาหารซ้ำหลังจากได้กินไปแล้วนั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งลักษณะของอาหาร รสนิยมส่วนตัวของผู้บริโภค และสถานการณ์รอบตัว เช่น ฤดูกาล อารมณ์ หรือการเฉลิมฉลอง แต่ในแง่ของสถิติ มีการศึกษาและข้อมูลบางส่วนที่ช่วยประมาณการได้

ความถี่ในการซื้อซ้ำ

1. อาหารทั่วไป

  • หากเป็นอาหารที่บริโภคในชีวิตประจำวัน เช่น ข้าวแกงหรืออาหารจานเดียว คนอาจกลับมากินซ้ำได้ภายในไม่กี่วันหรือสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความพึงพอใจ

2. อาหารพิเศษ

  • อาหารที่มีรสชาติเฉพาะหรือหายาก เช่น อาหารญี่ปุ่นพรีเมียมหรือสเต็ก คนอาจกลับมากินซ้ำทุก 2-4 สัปดาห์ หรือในโอกาสพิเศษ

3. อาหารตามฤดูกาล

  • เช่น ไอศกรีมมักจะได้รับความนิยมซ้ำในช่วงหน้าร้อน ในขณะที่อาหารร้อนๆ เช่น หมูกระทะ มักได้รับความนิยมในหน้าหนาว

4. อิทธิพลจากโปรโมชั่น

  • โปรโมชั่น เช่น ส่วนลดหรือการแจกคูปอง สามารถกระตุ้นการกลับมาซื้อซ้ำได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากโปรโมชั่นมีระยะเวลาจำกัด

5. พฤติกรรมการบริโภคที่เกี่ยวข้องกับความจำ (Food Memory)

  • งานวิจัยแสดงให้เห็นว่า รสชาติที่อร่อยและได้รับประสบการณ์ที่ดีจะถูกจดจำ และกระตุ้นความอยากกินซ้ำในเวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ หลังจากประสบการณ์ครั้งแรก

6. ข้อมูลจากธุรกิจอาหาร

ธุรกิจอาหารบางแห่งใช้ระบบสมาชิกหรือบันทึกข้อมูลลูกค้าเพื่อติดตามพฤติกรรมการซื้อซ้ำ พบว่า:

  • ลูกค้าที่พึงพอใจอาจกลับมาซื้อซ้ำใน 1-2 สัปดาห์ สำหรับอาหารจานเดียว
  • สำหรับอาหารเฉพาะทาง เช่น บุฟเฟต์หรืองานเลี้ยง ลูกค้ามักกลับมาใช้บริการทุก 1-3 เดือน

ระยะเวลาการซื้อซ้ำโดยเฉลี่ยตามประเภทของธุรกิจ

1. ร้านอาหารทั่วไป

  • อาหารจานเดียวหรืออาหารประจำวัน:
    • ลูกค้ามักกลับมาซื้อซ้ำในช่วง 1-7 วัน หากร้านตั้งอยู่ในทำเลที่ลูกค้าสะดวก เช่น ใกล้บ้านหรือที่ทำงาน
    • ตัวอย่าง: ร้านข้าวแกง ข้าวมันไก่ หรืออาหารจานเดียว
  • อาหารเฉพาะทางหรือระดับพรีเมียม:
    • ระยะเวลาการซื้อซ้ำอยู่ที่ 2-4 สัปดาห์ เพราะลูกค้าอาจใช้บริการเฉพาะในโอกาสพิเศษ
    • ตัวอย่าง: ร้านอาหารญี่ปุ่นพรีเมียม ร้านสเต็ก

2. ธุรกิจอาหารเดลิเวอรี่

  • อาหารเดลิเวอรี่:
    • ลูกค้าอาจสั่งซื้อซ้ำภายใน 1-3 วัน หากราคาย่อมเยาและมีโปรโมชั่น
    • ตัวอย่าง: พิซซ่า ไก่ทอด อาหารฟาสต์ฟู้ด
  • อาหารแบบมื้อพิเศษ:
    • ระยะเวลาการซื้อซ้ำเฉลี่ยอยู่ที่ 2-3 สัปดาห์
    • ตัวอย่าง: ชุดครอบครัว ชุดอาหารปิ้งย่าง

3. ร้านกาแฟและเบเกอรี่

  • เครื่องดื่มหรือเบเกอรี่ประจำวัน:
    • ลูกค้าประจำอาจซื้อซ้ำในระยะเวลา 1-3 วัน
    • ตัวอย่าง: กาแฟ ชานม ขนมปัง
  • ขนมแบบพรีเมียม:
    • ระยะเวลาซื้อซ้ำเฉลี่ยอยู่ที่ 1-2 สัปดาห์
    • ตัวอย่าง: เค้กมูส มาการอง

4. ธุรกิจบุฟเฟต์

  • ระยะเวลาซื้อซ้ำอยู่ที่ 1-3 เดือน เนื่องจากเป็นบริการที่ลูกค้าอาจใช้ในโอกาสพิเศษ
  • ตัวอย่าง: บุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่น บุฟเฟต์ชาบู

5. อาหารตามฤดูกาล

  • อาหารตามฤดูกาลหรือเทศกาล:
    • ลูกค้ามักซื้อซ้ำในช่วงเวลาเดียวกันของปี เช่น 1 ครั้งต่อปี
    • ตัวอย่าง: ไอศกรีมหน้าร้อน ผลไม้หน้าหนาว

ข้อมูลจากการศึกษา (สถิติ)

รายงานวิจัยบางชิ้นระบุว่า

  • ระยะเวลาซื้อซ้ำในธุรกิจร้านอาหารโดยทั่วไปอยู่ที่ 1-3 สัปดาห์
  • ร้านที่มีการกระตุ้นผ่านโปรโมชั่นหรือโปรแกรมสมาชิกสามารถลดระยะเวลาซื้อซ้ำลงได้ถึง 30-50%

สรุป

การวิเคราะห์ระยะเวลาการซื้อซ้ำเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจวางแผนส่งเสริมการขายอย่างเหมาะสม เช่น การให้คูปองส่วนลดที่หมดอายุภายใน 7 วัน หรือการทำโปรแกรมสะสมแต้มสำหรับลูกค้าประจำ

More
articles

สนใจร่วมขายเทมเพลต และผลงานดิจิตอล

วันเดียวเท่านั้น

ลดสูงสุด

50% Off

Days
Hours
Minutes

ส่วนลดออนไลน์ที่คุ้มที่สุดของปี